วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เนื้อเรื่องย่อค่าวซอในธรรม เรื่อง เจ้าสุวัตร์-นางบัวคำ หรือ โสวัต (ภาคกลาง)



เนื้อเรื่องย่อค่าวซอในธรรม เรื่อง
เจ้าสุวัตร์-นางบัวคำ หรือ โสวัต (ภาคกลาง)

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมภพ  เพ็ญจันทร์
วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗

พญาอาทิตย์ เจ้าเมืองพาราณสี มีมเหสีชื่อนางจันทเทวี  มีโอรสองค์หนึ่งชื่อ เจ้าสุวัตร์ (โสวัต) ซึ่งคือพระโพธิสัตว์จุติลงมาเกิด เมื่อเจ้าสุวัตร์อายุ ๑๖ ปี พระบิดาปรารถนาจะหาพระชายาให้ แต่เจ้าสุวัตร์ก็ไม่ถูกพระทัยหญิงสาวคนใด กล่าวฝ่ายนางบัวคำ (นางปทุมมา) ซึ่งถือกำเนิดในดอกบัว พระฤๅษีมาพบเข้า จึงเก็บไปเลี้ยงไว้เป็นลูกบุญธรรม นางบัวคำเสี่ยงพวงมาลัยอธิษฐานให้พบเจอเนื้อคู่แล้วลอยลงในแม่น้ำ วันหนึ่งเจ้าสุวัตร์ลงเล่นน้ำ พวงมาลัยนาง  บัวคำก็ลอยเข้าสวมข้อมือเจ้าสุวัตร์ เจ้าสุวัตร์ประหลาดใจมาก จึงออกตามหาเจ้าของพวงมาลัยพร้อมกับม้ากัณฐกะ เจ้าสุวัตร์พบนางบัวคำที่ศาลากลางป่าคนเดียวจึงได้เกี้ยวพาราสีกัน นางบัวคำพาเจ้าสุวัตร์เข้าพบพระฤๅษี  พระฤๅษีทราบด้วยญาณวิเศษว่าทั้งสองเป็นเนื้อคู่กัน ก็ยกนางบัวคำให้เป็นมเหสีเจ้าสุวัตร์
ทั้งคู่อยู่ปรนนิบัติพระฤๅษีอย่างมีความสุข ช่วงเวลานั้นมียักษ์ตนหนึ่งได้มาลักม้ากัณฐักของเจ้าสุวัตร์หนีหายไป วันหนึ่งเจ้าสุวัตร์และนางบัวคำได้เข้าป่าเพื่อหาอาหาร  มีพรานป่าใจโฉดคนหนึ่งอยากได้นางบัวคำเป็นเมีย จึงได้ลอบยิงธนูสังหารเจ้าสุวัตร์และฉุดนางบัวคำไป พระฤๅษีได้มาช่วยเหลือชุบชีวิตเจ้าสุวัตร์ให้ฟื้น เจ้าสุวัตร์ต้องการออกตามหานางบัวคำและม้ากัณฐัก พระฤาษีจึงมอบของวิเศษให้ คือ น้ำมนต์วิเศษ ธนูสิงห์ และดาบแก้วกัญชัย  ฝ่ายนางบัวคำถูกพรานป่าจับตัวไป ได้ออกอุบายแกล้งบีบนวดให้พรานป่าจนม่อยหลับ  นางใช้มีดของนายพรานฆ่านายพรานตาย หนีกระเซอะกระเซิงไปเพียงลำพัง ขณะนั้นนางท้องได้ ๗ เดือนแล้ว
เจ้าสุวัตร์ออกตามหานางบัวคำและม้ากัณฐัก ไปเจอจระเข้ตัวหนึ่งนอนตายอยู่ นึกสงสารจึงใช้น้ำมนต์วิเศษชุบให้ฟื้น จระเข้กลับกลายเป็นหญิงสาวรูปงามนามว่า นางสมุทรชา (สมุดต๊ะจา) ซึ่งเป็นเงือกรักษาแม่น้ำแห่งนั้น เจ้าสุวัตร์ได้นางเป็นเมีย นางสมุทรชาช่วยเจ้าสุวัตร์ข้ามแม่น้ำใหญ่มาถึงเมืองยักษ์ชื่อยักษ์เวระมติ  เจ้าสุวัตร์ได้สนมยักษ์ชื่อนางสีวลีเป็นสนม   นางสีวลีได้ช่วยเหลือให้เจ้าสุวัตร์ได้ม้ากัณฐักซึ่งยักษ์เวระมติลักมากลับคืน  และยังช่วยให้เจ้าสุวัตร์ได้นางสุกกะรักลูกสาวยักษ์เวรามติเป็นเมียอีกด้วย เจ้าสุวัตร์ได้มอบแหวนให้นางสุกกะรักไว้ต่างหน้า (มาถึงตอนนี้ เจ้าสุวัตร์มีเมีย ๓ คนแล้ว คือ นางบัวคำ นางสมุทรชา นางสุกกะรัก ไม่นับนางสีวลีซึ่งเป็นเพียงนางสนม)    ต่อมายักษ์เวระมติรู้เรื่องเจ้าสุวัตร์แอบเป็นชู้กับลูกสาวตน จึงโกรธแค้นยกทัพมาหมายฆ่าเจ้าสุวัตร์ กลับถูกเจ้าสุวัตร์ฆ่าตาย เจ้าสุวัตร์จึงขี่ม้ากัณฐักออกตามหานางบัวคำต่อไป
ฝ่ายนางบัวคำ  ออกติดตามหาเจ้าสุวัตร์ ได้ถูกนายสำเภาฉุดขึ้นเรือหวังลวนลาม แต่นางตั้งจิตอธิษฐานจนนายสำเภาทั้งหลายไม่สามารถถูกเนื้อต้องตัวนางได้  เมื่อถึงโอกาสนางแอบหนีลงจากเรือสำเภาไปลงเรือเล็กพายหนีไป  บางบัวคำพายเรือมาเจอนางสุกกะรักซึ่งเหาะติดตามหาเจ้าสุวัตร์สามี นางสุกกะรักหมดแรงเหาะต่อไปจึงตกลงในแม่น้ำ นางบัวคำเห็นเข้าจึงช่วยเหลือ  เมื่อไต่ถามกันนางสุกกะรักบอกว่าออกตามหาสามีชื่อเจ้าสุวัตร์ นางบัวคำเห็นแวนที่นางสวมใส่ก็จำได้ รู้ว่าเจ้าสุวัตร์ยังไม่ตาย นึกดีใจ ทั้งสองจึงร่วมใจกันออกตามหาเจ้าสุวัตร์  เมื่อมาถึงชายฝั่ง นางบัวคำได้คลอดลูกออกมาเป็นชาย แต่ประสบเคราะห์กรรมถูกงูพิษกัดตาย นางสุกกะรักตกใจไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร จึงอุ้มลูกชายนางบัวคำออกตามหาเจ้าสุวัตร์เพียงลำพัง
กล่าวฝ่ายพญาเจ้าเมืองจำปา ออกประพาสป่าล่าสัตว์มาถึงชายฝั่งน้ำ เห็นนางบัวคำนอนตายก็สงสาร จึงให้หมอช่วยกันรักษาจนนางฟื้นคืนชีวิตมาได้  พญาจำปาขอให้นางเป็นมเหสี แต่นางบัวคำขอเป็นเพียงธิดา โดยอธิษฐานให้น้ำนมไหลจากอกพญาจำปา ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคำอธิษฐานพญาจำปาจึงรับนางเข้าเมือง นางบัวคำขอให้พญาเจ้าเมืองสร้างศาลาริมทางไว้หลังหนึ่ง ให้ช่างเขียนรูปเล่าเรื่องราวหนหลังของนางกับเจ้าสุวัตร์ สั่งความกับคนเฝ้าศาลาว่า หากเห็นผู้หนึ่งผู้ใดมาดูภาพวาดแล้วร้องไห้ ให้มาแจ้งแก่นาง
ฝ่ายนางสุกกะรัก อุ้มลูกของนางบัวคำรอนแรมมาในป่า นางเทพธิดาตนหนึ่งซึ่งอดีตชาติเคยเป็นมเหสีเจ้าสุวัตร์เกิดความสงสาร จึงเนรมิตเมืองขึ้นเมืองหนึ่งชื่อ เวียงพาง โดยเทพธิดาเป็นผู้ครองเมือง ซึ่งมีแต่ผู้หญิงล้วนไม่มีผู้ชายเลย นางเทพธิดาได้รับนางสุกกะรักและโอรสเจ้าสุวัตร์ที่เกิดกับนางบัวคำได้อาศัยอยู่  ต่อมานางสุกกะรักได้คลอดธิดา  นางจึงตั้งชื่อธิดาของนางว่า “ไชยา” และตั้งชื่อโอรสนางบัวคำว่า “ทุกขะกุมาร”
กล่าวถึงเจ้าสุวัตร์ออกตามหานางบัวคำพร้อมกับม้ากัณฐัก  เห็นพญาครุฑจับนาคโบยบินมาจึงช่วยเหลือพญานาค ใช้ธนูสิงห์ยิงพญาครุฑจนปล่อยนาคตกลงมาพื้นดิน พญานาคกลายเป็นมนุษย์ ขอบคุณเจ้าสุวัตร์ที่ช่วยชีวิต มอบธิดาชื่อ “นางสุกันธา” เป็นมเหสี (นับเป็นคนที่ ๔) เจ้าสุวัตร์ออกเดินทางต่อ ระหว่างทางได้นางกินรีเป็นมเหสี  (เป็นคนที่ ๕)
เจ้าสุวัตร์ออกเดินทางต่อ ได้ช่วยเหลือชุบชีวิตช้างเผือกเชือกหนึ่งชื่อมงคลหัตถี  ซึ่งตายเพราะช้างดำที่โหดร้ายชื่อ คีรีหว้ายฟ้า  เจ้าสุวัตร์ช่วยเหลือช้างเผือกมงคลหัตถี จนช้างเผือกมงคลหัตถีสามารถล้างแค้นฆ่าช้างดำคีรีหว้ายฟ้า ได้ลูก เมีย ลูกน้อง กลับคืนมาในโขลง  ช้างเผือกมงคลหัตถีซึ้งใจในคุณของเจ้าสุวัตร์ จึงพาเจ้าสุวัตร์ไปเวียงพางคำ เมืองของนางเทพธิดา ซึ่งนางสุกกะรักและลูกทั้ง ๒ คนอาศัยอยู่
เจ้าสุวัตร์พบนางสุกกะรัก และได้นางเทพธิดาเป็นเมีย (คนที่ ๖) เมื่อนางเทพธิดากลับมาใช้ชีวิตแบบมนุษย์ เวียงพางคำที่เป็นเมืองเนรมิตก็หายวับไป เจ้าสุวัตร์จึงต้องฝากเมียทั้ง ๒ นาง และโอรส-ธิดา ไว้กับพระฤาษี ก่อนออกติดตามหานางบัวคำกับม้ากัณฐักต่อไป
เจ้าสุวัตร์กับม้ากัณฐักเดินทางมาถึงเมืองจำปาของนางบัวคำ เจ้าสุวัตร์ได้ไปอาศัยอาหารจากโรงศาลาริมทาง เมื่อไปอ่านภาพวาดที่เขียนเรื่องราวของพระองค์กับนางบัวคำก็ร้องไห้  คนเฝ้าศาลาริมทางจึงรีบไปบอกนางบัวคำ  นางบัวคำกับเจ้าสุวัตร์จึงได้พบกัน
เจ้าสุวัตร์พามเหสีทั้ง ๖ นางมาอยู่กับพระฤาษี ต่อมาพระฤาษีเนรมิตม้าวิเศษให้เจ้าสุวัตร์พามเหสีทั้ง ๖ นาง คือ นางบัวคำ (เกิดในดอกบัว) นางสมุทรชา (เงือก) นางสุกกะรัก (มนุษย์แต่เป็นลูกสาวยักษ์) นางสุกันธา (ลูกสาวพญานาค) นางกินรี และนางเทพธิดา กลับเมืองพาราณสี พร้อมกับโอรสนางบัวคำ คือ ทุกขะกุมาร และธิดานางสุกกะรัก ชื่อ ไจยา 
พญาอาทิตย์ยกเมืองพาราณสีให้เจ้าสุวัตร์ขึ้นครองราชย์ ต่อมาเจ้าสุวัตร์พานางบัวคำ ไปกราบพระฤาษีผู้เลี้ยงนางบัวคำมา พระฤาษีได้สอนสั่งเจ้าสุวัตร์ให้ครองเมืองด้วยทศพิธราชธรรม ซึ่งเจ้าสุวัตร์ได้ปฏิบัติตามและครอบครองเมืองพาราณสีจนทำให้อาณาประชาราษฎร์มีความสุข
(ดูรายละเอียดได้ในบทละครพื้นบ้านล้านนา เรื่อง เจ้าสุวัตต์-นางบัวคำ)

หนังสืออ้างอิง
ค่าวซอเรื่องธรรมเรื่องเจ้าสุวัตร์. เชียงใหม่ : ร้านประเทืองวิทยา , มปพ.มปป.
(ข้อมูลบางแห่งกล่าวว่า พญาพรหมเทพแต่ง หลัง พ.ศ.๒๔๐๐ ไม่นาน
ดูใน อุดม  รุ่งเรืองศรี วรรณกรรมล้านนา. หน้า ๕๑๒ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น